วงการสตรีมมิง สองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นอะไรบ้างในวงการนี้

    วงการสตรีมมิง

    วงการสตรีมมิง เรามาวิเคราะห์ และคาดเดาถึงอนาคตของเรากันดีกว่า

    วงการสตรีมมิง เราได้เห็น การเปลี่ยนแปลงที่ ใหญ่หลวงมากใน อุตสาหกรรมบันเทิง ในรูปแบบต่าง ๆ ในขณะที่โรคระบาดครั้งนี้ จะยังดำเนินต่อไป และผลกระทบของมัน ก็ขยายเป็นวงกว้าง ไปในทุกมุมของ การใช้ชีวิตของเรา

    แต่แพลตฟอร์ม สตรีมมิงอันโด่งดัง อย่าง Netflix นั้นอาจจะไม่ได้รับ ผลกระทบเท่าไหร่นัก ในเชิงของจุดยุทธศาสตร์ ของตัวธุรกิจ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง การปรับตัวครั้งใหญ่ ส่วนของการสตรีมมิง โดยทั่วไป ตามพฤติกรรมของ ผู้บริโภคทั่วโลก

    แล้วถ้าอย่างนั้น เราคาดหวังที่ จะเห็นอะไรได้บ้างในอนาคต? ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของเทรนด์ธุรกิจ หรือนวัตกรรม เทคโนโลยีที่กำลังจะมา เราจะมาบอกเล่า ให้ทุกคนได้รู้กัน!

    วงการสตรีมมิง

    วงการสตรีมมิง อย่างแรก เราจะได้เห็นคนใช้งานสตรีมมิงเยอะกัน

    คุณเคยเข้าระบบไปใน บริการสตรีมมิ่ง ที่คุณชื่นชอบ และหวังว่าจะได้ เห็นตอนใหม่ของซีรีส์ ที่คุณติดตาม โผล่ขึ้นมาบน หน้าจอของคุณ แต่สิ่งที่เห็นคือ ซีรีส์นั้นได้หายไปจาก แพลตฟอร์มซะแล้ว

    นี่คือเหตุการณ์ ที่ปกติมากใน Streaming Ecosystem ถ้าเกิดว่าซีรีส์นั้น ๆ ทำกระแสได้ แย่มากจริง ๆ แม้จะเป็น Netflix ก็เถอะ คุณคิดว่าเขา จะยังเซ็นสัญญา ซีรีส์เรื่องนั้นไว้หรือไม่? ขอตอบเลยว่ายาก

    และหากผู้ถือสิทธิ์ ตัดสินใจย้ายซีรีส์ตัวเอง จากแพลตฟอร์มหนึ่ง ไปยังแพลตฟอร์มรายอื่น เจ้าของแพลตฟอร์ม ก่อนหน้ามักจะ ใช้โอกาสนี้ ในการยกเลิกสัญญา เป็นธรรมชาติของ ธุรกิจสตรีมมิ่ง

    เพราะทุกคน มักจะอยากเป็น เจ้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คนเดียวอยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมชาติ ของวงการสตรีมมิง เช่นกัน เพื่อที่จะสามารถ เชิญชวนผู้บริโภค มาสมัครสมาชิก ในแพลตฟอร์มของตัวเอง

    แต่บางครั้ง สถานการณ์แบบนี้ มันก็น่าเบื่อหน่าย บางภาพยนตร์ที่ เข้ามาในแพลตฟอร์ม ก็มาไวไปไว ซะเหลือเกิน คุณอาจจะเจอหนังใหม่ ซีรีส์ใหม่ เก็บไว้ในส่วน Watchlist ก่อนที่กลับมา และพบว่าหายไปแล้ว ซะอย่างนั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ อาจจะเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ

    ซึ่งนี่อาจจะเป็น การวิเคราะห์ที่ ปนความหวังเข้าไปด้วย หวังว่าผู้ให้บริการ สตรีมมิงเจ้าต่าง ๆ จะเพิ่มเวลา ให้กับซีรีส์และ ภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ให้อยู่ในแพลตฟอร์ม ตนเองนานขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ สูงเหมือนกัน

    เพราะมีหลายคน ที่เข้ามาใน วงการสตรีมมิง เนื่องจากการระบาด ของโควิด และก็ไม่สามารถ ออกไปได้ เพราะชอบในการ ที่จะได้ดูภาพยนตร์ และซีรีส์มากมาย ได้ที่บ้าน

    วงการสตรีมมิง

    สตรีมมิงแต่ละเจ้า อาจจะเริ่มผลิตสื่อและถือสิทธิ์ไว้แต่เพียงผู้เดียว

    สงครามสตรีมเมอร์ ที่เกิดขึ้นแล้ว และมันมีแนวโน้ม ว่าจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่าง Netflix ที่นอกจากจะ ทำแพลตฟอร์มสตรีมมิงแล้ว ก็เริ่มหันมา สร้างสื่อภาพยนตร์ และซีรีส์ของตัวเอง และสามารถรับชมได้ เฉพาะแพลตฟอร์ม ของตัวเองเท่านั้น

    พฤติกรรมนี้ ของผู้ให้บริการสตรีมมิง ไม่ใช่เรื่องที่แปลก หรือเรื่องที่เรา ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ ก็คือผู้บริโภคอย่างเรา

    อีกด้านหนึ่ง บริษัทสื่อมีเดียหลาย ๆ เจ้าก็เริ่มหันมา ลงทุนกับ ธุรกิจ Streaming มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแพลตฟอร์ม ของตัวเอง อย่าง Disney หรือจะทำสัญญา กับสตรีมมิงที่ใดที่หนึ่ง และทำสื่อป้อนเข้าไป ตามสัญญาที่ได้ ตกลงกันไว้ ต่างคนต่างได้ประโยชน์

    แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะมีแต่ข้อดี เพราะเชื่อว่า เราอาจจะต้อง สมัครแพลตฟอร์มสตรีมมิง หลายเจ้าเลย หากสิ่งที่เรา อยากรับชม มันกลับอยู่ที่ อีกแพลตฟอร์มหนึ่ง

    แต่นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง ที่จะพลิกโฉม สตรีมมิงทุกเจ้า ในฉับพลัน ในปัจจุบัน ยังมีอีกหลายเจ้า ที่ใช้การเซ็นสัญญา กับบริษัท Third-Party ในการผลิต คอนเทนต์ต่าง ๆ

    Disney อาจจะไม่ต้อง ทำแบบนั้น เพราะเจ้าตัว เป็นบริษัทผลิตสื่ออยู่แล้ว ก่อนจะลงทุน แพลตฟอร์มสตรีมมิง แต่ยืนยันได้เลย ว่าการแข่งขันโดยรวม มันจะเข้มข้นขึ้น

    วงการสตรีมมิง

    ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ระหว่าง โรงภาพยนตร์ และ ผู้ให้บริการสตรีมมิง

    ดูเหมือนการรวมตัว ของสื่อนั้นกำลัง เปลี่ยนวิธีการ ที่เรารับชมภาพยนตร์ไป อย่างเหตุการณ์ล่าสุด ที่ว้าวมาก คือการที่ HBO Max ได้ปล่อยคอนเทนต์จาก Warner Bros ทุกอย่างที่ เคยทำมา ในวันเดียว ให้กับสมาชิกได้รับชมกัน

    นั่นหมายความว่าใครก็ตาม ที่สมัครสมาชิกกับ HBO Max จะสามารถรับชม ภาพยนตร์อย่าง Godzilla vs. Kong, The Suicide Squad หรือล่าสุดอย่าง Dune เพื่อให้เราได้ผ่อนคลาย ดูภาพยนตร์คุณภาพดี อยู่ที่บ้าน รวมถึงภาพยนตร์อื่น ๆ ที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ นี่คือการเปลี่ยนแปลง ที่รับกับโควิด-19 ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้

    นี่อาจจะเป็นตัว บ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วม ของธุรกิจทั้งสองอัน และหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งคนทำหนังเอง ที่อาจจะมีส่วนร่วม กับกระบวนการนี้มากขึ้น คนทำหนัง โรงภาพยนตร์ และผู้ให้บริการสตรีมมิง ทั้งสามฝ่าย จะมีอำนาจในการ ต่อรองซึ่งกันและกัน ในมุมธุรกิจนั้น ก็อาจจะหมายถึง ผลประโยชน์ที่มากขึ้น

    การแข่งขันที่สูง นำมาซึ่งคุณภาพของคอนเทนต์ที่ดีขึ้น

    ยิ่งผู้เล่นในตลาด มากขึ้นเท่าไหร่ การแข่งขัน ก็ยิ่งสูงขึ้น ยิ่งในปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคกำลังเข้าสู่ ตลาดสตรีมมิงมากขึ้น เหล่าผู้ให้บริการ ก็พยายามจะงัด กลยุทธ์มากมาย เพื่อที่จะเชิญชวน ผู้บริโภคมาสมัครสมาชิก กับแพลตฟอร์มของตัวเอง

    ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการเหล่านี้ ก็ต้องพยายาม จะดึงดูดให้ ผู้บริโภคยังคอย สมัครสมาชิกอยู่ในทุก ๆ เดือน ด้วยการเพิ่มคอนเทนต์ ทั้งเก่าและใหม่ อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ใช่หลับหูหลับตา เพิ่มเข้ามาอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจ พฤติกรรมของผู้บริโภค ของตัวเองด้วยว่า คอนเทนต์แบบไหน เป็นที่นิยม และคุณภาพแบบไหน ที่ผู้บริโภคคาดหวังจากเรา

    ติดตามเว็บไซต์ดี ๆ แบบนี้ เพื่อที่จะไม่พลาดคอนเทนต์ดี ๆ แบบนี้ต่อไปในอนาคต


    เรียบเรียง: แซมมีแบร์