เฟสบุ๊คเปลี่ยนแผน Meta เลื่อนการเข้ารหัสข้อความบน Facebook และ Instagram เป็นปี 2023
เฟสบุ๊คเปลี่ยนแผน แผนการที่จะเปิดตัว การเข้ารหัสแบบ end-to-end(end-to-end encryption) บน Facebook และ Instagram นั้นล่าช้าท่ามกลาง ประเด็นความปลอดภัยของเด็ก ต่อการใช้งาน Facebook และ Instagram
Meta ซึ่งขณะนี้เป็นชื่อบริษัทแม่ของ Facebook กล่าวว่าการเข้ารหัส ข้อความบนแอปจะจัดการเสร็จในปี 2023
กระบวนการเข้ารหัสข้อความนี้ หมายความว่ามีเพียง ผู้ส่งและผู้รับเท่านั้น ที่สามารถอ่านข้อความได้ ที่แม้แต่หน่วยงาน บังคับใช้กฎหมายหรือ Meta ก็ไม่สามารถเข้าไปอ่านได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคุ้มครองเด็ก และนักการเมืองได้เตือนว่า อาจขัดขวางการสืบสวน การล่วงละเมิดเด็กจากตำรวจ สังคมแห่งชาติเพื่อการป้องกันการทารุณกรรมเด็ก (NSPCC) อ้างว่า การส่งข้อความส่วนตัว “เป็นการเปิดโอกาส ให้มีการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก”
พริตี้ เพเทล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ของสหราชอาณาจักร ยังวิพากษ์วิจารณ์เทคโนโลยีดังกล่าว โดยกล่าวว่าเมื่อต้นปีนี้อาจ “ขัดขวาง” การบังคับใช้กฎหมาย อย่างร้ายแรงในการดำเนิน กิจกรรมทางอาญา รวมถึงการล่วงละเมิดเด็ก ทางออนไลน์
ก่อนหน้านี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้กล่าวถึงแผนการนี้ไว้ว่าอย่างไร?
ในบล็อกข้อความยาว 3,200 คำ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หัวหน้าผู้บริหารของ Facebook กล่าวว่า “การสื่อสารที่เน้นความเป็นส่วนตัว” จะมีความสำคัญมากกว่า เครือข่ายสังคมแบบเปิดในอนาคต และในบางประเทศ ก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
Facebook จะเพิ่มการเข้ารหัสแบบ end-to-end ให้กับบริการส่งข้อความทั้งหมด เพื่อไม่ให้ แฮ็กเกอร์ อาชญากร รัฐบาลที่เข้าถึงมากเกินไป หรือ Facebook เองไม่สามารถเห็นแชทได้
ลดระยะเวลาการคงอยู่ ของเนื้อหาที่โพสต์บน Facebook รวมถึงรูปภาพที่หายไป การอัปเดตสถานะ และแม้แต่ข้อความส่วนตัว
การรวมองค์ประกอบของ Facebook Messenger, Instagram และ WhatsApp เพื่อให้สามารถส่งและ รับข้อความระหว่างทั้งสามแอป ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มาร์กเน้นว่าตัวเลือก ในการโพสต์ต่อสาธารณะ จะยังคงอยู่ เนื่องจากทำให้เรา มองเห็นผู้คน ความคิด และเนื้อหาใหม่ ๆ และความคิดเห็นต่าง ๆ ต่อผู้คน
นอกจากนี้ มาร์กยังกล่าวอีกว่า บริษัทจะไม่สร้างศูนย์ข้อมูล ในประเทศที่มี ประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย
เข้าถึง ข่าวไอที มากมายผ่านเว็บไซต์แห่งนี้
แผนการนี้จะช่วย Facebook ได้ประโยชน์อะไร?
แผนการที่จะทำให้ Facebook เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจช่วยนำความเชื่อมั่น ของสาธารณชนใน แพลตฟอร์มกลับมา จากผลกระทบเรื่องอื้อฉาว ด้านความเป็นส่วนตัว และการละเมิดข้อมูล มาเป็นเวลาหนึ่งปี
การเพิ่มการเข้ารหัสแบบ end-to-end ให้กับข้อความส่วนตัวทั้งหมด จะทำให้ Facebook ไม่สามารถบังคับรัฐบาล ให้ส่งข้อความส่วนตัว ของผู้ใช้ได้ เนื่องจากไม่มีสำเนาก๊อบปี้หรือกุญแจปลดล็อก
มาร์กเน้นย้ำ ถึงสิ่งที่ต้องแลก จากการเน้นความสำคัญ ของความเป็นส่วนตัวมาก่อน เป็นอันดับแรก ข้อความเข้ารหัส จะเปิดโอกาสให้อาชญากร สามารถซ่อนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การก่อการร้าย หรือการล่วงละเมิดเด็ก
แต่มาร์กก็กล่าวว่า บริษัทกำลังปรับปรุง ความสามารถในการหยุด ผู้ไม่หวังดีในแอป ด้วยการตรวจจับรูปแบบ กิจกรรมที่น่าสงสัย
ความเป็นส่วนตัว vs การป้องกัน
การเข้ารหัสแบบ end-to-end ทำงานโดย “scrambling” หรือการเข้ารหัสข้อมูล ในขณะที่ข้อความส่งผ่านกัน ระหว่างโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่นๆ
วิธีเดียวที่จะอ่านข้อความคือ การเข้าถึงอุปกรณ์โดยตรง จากผู้ส่งหรือผู้รับ เทคโนโลยีนี้เป็นระบบหลัก ของแอปส่งข้อความยอดนิยม อยู่แล้วอย่าง WhatsApp ซึ่ง Meta เป็นเจ้าของเช่นกัน แต่ระบบนั้นไม่ได้ใช้ กับแอปอื่นๆ ของบริษัท
NSPCC ได้ส่งคำขอ Freedom of Information ไปยังกองกำลังตำรวจ 46 แห่งทั่วอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์ เพื่อขอให้พวกเขา ทำลายแพลตฟอร์มที่ ใช้ในการกระทำความผิดทางเพศต่อเด็ก เมื่อปีที่แล้ว
จากการเปิดเผยข้อมูลพบว่า มีการรายงานภาพ การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และความผิดทางเพศเด็กออนไลน์ มากกว่า 9,470 ครั้ง และ 52% ของสถิตินี้เกิดขึ้น บนแอปที่ Facebook เป็นเจ้าของ
และมากกว่าหนึ่งในสาม เกิดขึ้นบน Instagram และ 13% บน Facebook และ Messenger โดยเกิดขึ้นบน WhatsApp น้อยมาก
จึงนำไปสู่ความกลัว ของผู้คนและหน่วยงานว่า แผนการของ Meta ที่จะขยายการเข้ารหัส ไปยังข้อความโดยตรงของ Facebook Messenger และ Instagram ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถป้องกันผู้ละเมิดส่วนใหญ่ จากการตรวจพบได้หรือไม่
NSPCC กล่าวว่าการเข้ารหัสข้อความ อาจนำไปสู่การแพร่กระจาย ภาพการล่วงละเมิดเด็ก หรือการดูแลออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
แต่ฝ่ายที่สนับสนุนแผนการนี้ ก็กล่าวว่าการเข้ารหัส ปกป้องความเป็นส่วนตัว ของผู้ใช้ และหลีกเลี่ยง การสอดรู้สอดเห็นโดยรัฐบาล และพวกแฮกเกอร์ไร้ศีลธรรม
ซึ่ง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้บริหารระดับสูงของ Meta ก็โต้เถียงกับตัวเองเช่นกัน เมื่อเขาประกาศ แผนการเข้ารหัสของ Facebook ในปี 2019
ข่าวไอที เทคโนโลยี มากมายทั่วโลกที่คุณสามารถพบเจอได้ในเว็บไซต์ของเรา
เฟสบุ๊คเปลี่ยนแผน นำไปสู่การยืดระยะเวลาแผนการออกไปเพื่อ “ทำให้มันถูกต้อง”
Antigone Davis หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยระดับโลกของ Meta กล่าวว่าความล่าช้า ในการเข้ารหัสไปจนถึงปี 2023(จากเดิมปี 2022) เป็นเพราะบริษัท กำลังใช้เวลาในการ “ทำให้มันถูกต้อง”
ด้วยฐานะบริษัท ที่เชื่อมโยงผู้คน หลายพันล้านคนทั่วโลก และได้กลายเป็นเทคโนโลยีชั้นนำ ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี Davis เน้นยำถึงความมุ่งมั่นของ META ที่จะปกป้องความส่วนตัว ของผู้ใช้งานและรักษา ความปลอดภัยให้กับผู้คน ในโลกออนไลน์
การยืดแผนการออกไปแบบนี้นั้น คงจะทำให้มีเวลาไตร่ตรอง รวมถึงเวลาการคิดแผนการ รับมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องปกติ ที่เทคโนโลยีจะเป็นดาบสองคม
เราต้องเลือกว่า จะใช้ด้านคมอันไหนเป็นหลัก และต้องคอยระวังอีกด้านคม ที่มันอาจจะมาทำร้ายเราได้ หากไม่ระวัง อีกทั้งคงต้องดูว่า ในอนาคต Facebook และ Instagram จะเปลี่ยนไปอย่างไร ด้วยแผนการนี้
ติดตามเพื่อรับข่าวสารแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ทาง >>> <<<
เรียบเรียง: แซมมีแบร์