หุ่นยนต์วาดรูป หนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ สร้างรายได้มหาศาล

หุ่นยนต์วาดรูป Sougwen Chung ศิลปินที่สร้างหุ่นยนต์ มาเป็นผู้ช่วยในการวาดรูป รู้หรือไม่ว่าในปี 2025 มีการคาดการณ์ว่า งานกว่า 85 ล้านตำแหน่ง

หุ่นยนต์วาดรูป มนุษย์จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ทำให้บางคนอาจมองหุ่นยนต์เป็นภัยร้าย ที่กำลังจะมาคุกคามอาชีพของตน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีการคาดการณ์ว่า บทบาทในการทำงานด้านใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นกว่า 97 ล้านตำแหน่งด้วยเช่นกัน แปลว่าหากเราสามารถปรับตัวได้ การอยู่ร่วมกันกับหุ่นยนต์ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว

Song Wen Chung สาวนักพัฒนาเทคโนโลยี และเธอเป็นถึงศิลปินอีกด้วย และเมื่อเธอได้พัฒนา หุ่นยนต์เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการบริการ ตามร้านอาหารตามต่าง ๆ อย่างมีความแปลกใหม่ ทำให้เทคโนโลยีของเธอ น่าสนใจเป็นอย่างมาก

เดิมทีคุณพ่อของเธอเป็นนักร้องโอเปร่า ส่วนคุณแม่เป็นวิศวกรด้านซอฟต์แวร์ และด้วยความแตกต่างกันสุดขั้วนี้ รูปหุ่นยนต์การ์ตูน จึงทำให้เธอได้เรียนรู้ในหลาย ๆ ด้าน อย่างเช่น การเล่นดนตรี รวมถึงเขียนโคดตั้งแต่วัยเด็ก​ นอกจากนี้อีกหนึ่งกิจกรรม ที่เธอชื่นชอบก็คือการวาดรูป

ซึ่งในตอนนั้นเธอก็ไม่ได้คิดว่า มันจะกลายมาเป็นอาชีพ ของเธอในอนาคตเช่นกัน และเมื่อเธอเติบโตขึ้น จนเข้าสู่วัยทำงาน เธอก็ยังไม่ได้ทิ้งการวาดรูปไปเสียทีเดียว

ซึ่งต่อมา Sougwen Chung ก็ได้รู้จักกับวงการหุ่นยนต์ ขณะทำงานวิจัยที่ MIT Media Lab จึงเกิดไอเดีย ที่จะผสมผสาน 2 สิ่งที่เธอสนใจเข้าด้วยกัน โดยเธอมองว่า แทนที่จะให้คอมพิวเตอร์จำลองภาพ ของสิ่งที่ลองทดสอบภายใน สู่โลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการรันโปรแกรม

ทำไมไม่ให้สิ่งนั้นออกมา รูปหุ่นยนต์ระบายสี เป็นรูปธรรมผ่านการวาดภาพแทน พอเรื่องเป็นแบบนี้ในปี 2014 เธอจึงได้สร้างหุ่นยนต์แขนกลตัวแรก ชื่อ D.O.U.G 1 ( Drawing Operations Unit, Generation 1 ) ขึ้น

ซึ่งกลไกของมันก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เธอขยับมือวาดภาพ แขนกลก็จะขยับตาม หลายคนมักมีภาพจำว่า เมื่อเป็นหุ่นยนต์งานที่ทำ ก็จะต้องสมบูรณ์แบบ แต่ในความเป็นจริงหุ่นแขนกลของ Sougwen Chung กลับลากเส้นแบบกระตุกกระตัก และดูไม่เรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม แทนที่จะคิดว่าแขนกลนี้ เป็นความผิดพลาด เธอกลับมองว่าความไม่สมบูรณ์แบบนี้ รูปหุ่นยนต์เรขาคณิต ก็คือศิลปะอย่างหนึ่ง ที่คนกับหุ่นยนต์สามารถทำงานร่วมกัน ในฐานะผู้ช่วยมากกว่า การใช้หุ่นยนต์ เป็นเพียงแค่เครื่องมือเท่านั้น

ต่อมาในหุ่น D.O.U.G 2 เธอก็เริ่มใช้เทคโนโลยี AI เข้าร่วม ด้วยการเพิ่มโปรแกรม วาดภาพหุ่นยนต์ในอนาคต การเรียนรู้ลายเส้นจากภาพวาดต่าง ๆ ที่เธอได้วาดมาตลอด 20 ปี เพื่อให้แขนหุ่นยนต์นี้สามารถวิเคราะห์ และช่วยเธอวาดภาพ ต่อจากสิ่งที่เธอกำลังวาดอยู่ได้

หลังจากนั้น เธอยังได้สร้างหุ่นยนต์เพิ่ม รวมถึงสร้างผลงานร่วมกับ หุ่นยนต์จำนวน 20 ตัว บนแผ่นภาพขนาดใหญ่ โดยหุ่นยนต์จะเริ่มวาดเส้นต่าง ๆ จากสิ่งที่มันเรียนรู้มา จากนั้น Sougwen Chung ก็จะวาดภาพในส่วนของตัวเอง ให้ประสานไปกับสิ่งที่หุ่นยนต์วาดออกมา

ซึ่งหุ่นยนต์แต่ละตัว ของเธอนั้นมีมูลค่ากว่า 200,000 บาทต่อตัวเลยทีเดียว หุ่นวาดรูป ส่วนผลงานภาพ ที่เธอวาดร่วมกับหุ่นยนต์นั้น ก็มีมูลค่าสูงถึง 4-5.5 ล้านบาทต่อชิ้นงาน โดยสิ่งที่ Sougwen Chung พยายามจะสื่อสารให้แก่ผู้คนนั้น ไม่ใช่ในด้านของการที่เธอสามารถสร้างรายได้ จากการวาดรูปกับหุ่นยนต์

แต่เธอต้องการจะแสดงให้เห็นว่า การทำงานของมนุษย์กับหุ่นยนต์ ไม่ได้แยกออกจากกันเสียทีเดียว เราสามารถทำงานร่วมกัน ในฐานะเพื่อนร่วมงานได้ ในปี 2019 เธอจึงได้เปิดสตูดิโอ ชื่อ Scilicet เพื่อสร้างการรับรู้ เกี่ยวกับแนวคิดของเธอ ให้กระจายสู่วงกว้างได้มากขึ้น

ไม่ใช่แค่ในด้านศิลปะ วาดรูปหุ่นยนต์เรขาคณิต แต่รวมถึงการทำงานด้านอื่น ๆ ด้วยซึ่งเรื่องนี้ก็อาจ ทำให้เราต้องเปลี่ยนมุมมองจากเดิม ที่เคยมองว่าหุ่นยนต์จะมาแย่งงาน เป็นการที่เราต้องปรับตัว ให้สามารถทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ ซึ่งอาจสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้อีกมากมายในอนาคต

ถึงแม้กรณีของ Sougwen Chung จะไม่ได้เป็นเคสธุรกิจ ที่สร้างมูลค่าหลายหมื่นล้าน แต่หลักการความคิดของเธอ นั้นน่าสนใจอยู่ทีเดียว เพราะเธอสามารถนำเอาเทคโนโลยีกับศิลปะ เข้ามาหลอมรวมกัน ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และกลายเป็นผลงานที่สวยงาม ลองคิดถึงสิ่งที่เราชอบ และนำมันมาประยุกต์ ให้เข้ากับ เทคโนโลยีในปัจจุบัน ไม่แน่ว่าเราอาจจะสามารถ สร้างผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ แก่โลกได้เช่นกัน

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ที่ทำให้ทาสแมวต้องใจเต้น เมื่อต้องเริ่มพบเจอกับนวัตกรรมสุดว้าวเพื่อทาสแมวโดยเฉพาะ

ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ โดนใจทาสแมวสุด ๆ นี่คือหุ่นยนต์ที่คอยรับส่งอาหาร มีเซนเซอร์หลบหลีกรอบทิศทาง ลักษณะหน้าตาคล้ายน้องแมว แถมผู้ผลิตยังเพิ่มความน่ารัก ด้วยเสียงร้องและหน้าจอ ที่แสดงความรู้สึกได้

หุ่นยนต์ตัวนี้ ถูกนำมาสร้างสีสันภายในร้าน ช่วยดึงดูดและกระตุ้นลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น แถมยังช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิดได้ด้วย โดยหุ่นยนต์จะคอยเสิร์ฟอาหาร ได้มากถึงวันละ 400 ออเดอร์ รองรับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัม

กระทั่งมาในยุคที่หลายคนมองว่า หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่พนักงาน ในอุตสาหกรรมการผลิตและบริการต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม การผลิตรถยนต์ เป็นต้น ล่าสุดร้านอาหารชื่อดังเกาหลีใต้ Genesis BBQ ร้านไก่ทอดและบาร์บีคิว ได้ทำการเปิดตัว ร้านอาหารแห่งใหม่ในรูปแบบ “smart store” ในเขต Songpa ของกรุงโซลภายในเดือนธันวาคม

และที่น่าสนใจมาก ๆ กับร้านอาหารแห่งนี้ คือเจ้าของร้านได้เริ่มให้ใช้หุ่นยนต์ เพื่อขับเคลื่อนเสิร์ฟ และรับออเดอร์ต่าง ๆ ของลูกค้า ผู้ที่เข้ามามาใช้บริการ แต่เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ ไม่ได้มีลักษณะรูปร่างหน้าตา ที่เหมือนกับมนุษย์เลยสักนิด แต่มันเหมือนกันชั้นวางของ หรือชั้นวางถ้วยชามที่ขับเคลื่อนด้วยล้อ และเครื่องกลไกต่าง ๆ ทำเอาลูกค้าหลาย ๆ ท่าน ก็ได้ทึ่งกับเทคโนโลยีนี้มากเลยทีเดียว

และร้าน “Genesis BBQ” เป็นร้านอาหาร หรือที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ในประเทศเกาหลีใต้ เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.1995 และได้ใช้วัตถุดิบบ้าน ๆ อย่างเนื้อไก่ เป็นเมนูหลัก ๆ ที่สร้างชื่อให้กับร้านอาหารร้านนี้

ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด ไก่บาร์บีคิว ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน กับการก่อตั้งกิจการนั้น ได้มีการเปิดร้านอาหารแห่งแรกขึ้น และในระยะเวลาการดำเนินธุรกิจเพียง 5 ปี ซึ่งในปี ค.ศ.1999 ธุรกิจสามารถขยายกิจการได้มากกว่า 1,000 สาขา

ก่อนหน้านี้ ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการพัฒนาหุ่นยนต์ วาดรูปหุ่นยนต์ทำความสะอาด มาช่วยในการเป็นพ่อครัว หรือ Chef สำหรับทำก๋วยเตี๋ยวในร้านอาหาร โดยผู้ผลิตหุ่นยนต์ทำก๋วยเตี๋ยวในร้านอาหาร ก็คือ บริษัท LG Electronics ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าของเกาหลีใต้

โดย LG ได้ร่วมมือกับ CJ Foodville ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านอาหารแฟรนไชส์ พัฒนาและติดตั้งหุ่นยนต์ Cloi Chefbot สำหรับทำก๋วยเตี๋ยว และบริการลูกค้า ในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ Veep ใน Deungchon กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เช่นเดียวกัน

ช่วงนี้ใครที่ออกไปทานข้าวตามห้าง ก็จะเห็นว่าร้านอาหารดัง ๆ เริ่มนำเอาหุ่นยนต์มาช่วยเสิร์ฟอาหารบ้างแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่น่าสนใจ สำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่กำลังเล็งหาตัวช่วยใหม่ ๆ ก็ลองหันมาใช้หุ่นยนต์ดูก็ได้นะ ได้สร้างสีสันแถมปลอดภัย แถมยังห่างไกลจากโควิดด้วย

เรียบเรียงโดย อลิส