huawei-เปิดตัวหูฟัง รุ่นล่าสุดแบบสับแบบใหม่ จะทำออกมาได้ดีแค่ไหนกันนะ

huawei-เปิดตัวหูฟัง หากคุณใช้มือถือของ Huawei ก็ง่ายหน่อย เพราะอะไรตามมาเลย

huawei-เปิดตัวหูฟัง ข่าวไอที คอมพิวเตอร์ กับอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกอย่าง หู ฟัง HUAWEI ซึ่งก็เป็นหูฟังชนิด True wireless ราคาก็ไม่ถึง 3,000 บาท มาดูกันว่าหูฟังตัวนี้ จะน่าใช้งานและคุ้มค่ามากแค่ไหน เพราะอย่างที่ทราบกับว่า หูฟังของ หัวเหว่ย ราคาไม่แพงมาก และฟังก์ชันก็ครบครันเลยทีเดียว

huawei-เปิดตัวหูฟัง ตัวนี้นั้น ก็เป็นของแบรนด์ หัวเหว่ย โดยมีชื่อรุ่นว่า Huawei FreeBuds 5i โดยที่เคสของหูฟังนี้ ก็มีลักษณะเป็นวงรีรูปไข่สีขาว โดยที่รูปทรงของเคสรุ่นนี้ แทบจะไม่ได้ต่าง กับรุ่นก่อนอย่าง 4i เลย สำหรับสีของหูฟังรุ่นนี้มีมาให้ 3 สี ได้แก่ สี Ceramic White ,สี Nebula Black และสี Isle Blue สำหรับ Texture ของสีดำและสีฟ้านั้น ก็จะมีลักษณะที่คล้ายกัน

huawei-เปิดตัวหูฟัง ทำเอาหลาย ๆ คนลังเลอยู่เหมือนกัน จะสอย หู ฟัง ไร้สาย รุ่นไหนดีนะ

huawei-เปิดตัวหูฟัง รุ่นนั้นก็คือจะมี ลวดลายเป็นจุดเล็ก ๆ คล้ายกับเซรามิก แต่สีขาวนั้น ก็ไม่ได้มีลายอะไร เป็นลักษณะสีขาวมันวาวเท่านั้นเอง แล้วสิ่งที่ต้องระวัง ก็คือความสะอาดนั่นเอง หากคุณชอบ และซื้อสีขาวมานะ สำหรับเคสของหูฟังรุ่นนี้ มีน้ำหนักอยู่ที่ 3.3 กรัม และตัวหูฟังนั้น มีน้ำหนักอยู่ที่ข้างละ 4.9 กรัม

ซึ่งก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เบามาก หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบ In Ear และสำหรับก้านหูฟังนั้น ก็มีความยาวที่น้อยกว่ารุ่นก่อนอย่าง 4i เวลาที่ใส่แล้ว ก็จะรู้สึกสะดวกสบายมากกว่า และจุกสำหรับสวมเข้าในหูนั้น ก็ออกแบบมาได้บางพอสมควร จึงทำให้เวลาที่ใส่เข้าไปในหู

ก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกอึดอัดหู หรือรำคาญแต่อย่างใด ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ของหูฟังรุ่นนี้ ก็จะมีจุกหูฟังมาให้ 2 ไซซ์ นั่นก็คือ ไซซ์ L และไซซ์ S สำหรับไซซ์ที่ใส่อยู่ในหูฟังอยู่แล้ว ก็คือไซซ์ M นั่นเอง สายชาร์จของรุ่นนี้ ก็เป็นสาย หู ฟัง Huawei Type C ของแท้

นั่นก็คือ USB To USB C นั่นเอง บริเวณใต้เคส ก็จะเป็นช่องสำหรับเสียบชาร์จอย่างช่อง usb C ด้านขวาของเคสก็เป็นปุ่มกด เพื่อทำการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ หูฟังรุ่นนี้นั้นใช้บลูทูธ 5.2 เชื่อมต่อได้ทั้ง Android แล้วก็ iOS

และหูฟังรุ่นนี้ก็ยังใช้งานร่วมกับแอป Huawei AI Life โดยที่ แอปนี้นั้นก็ใช้สำหรับ Gadget ต่าง ๆ อย่าง แว่นตา อัจฉริยะ ,นาฬิกาเพื่อสุขภาพ และอื่น ๆ แล้วก็ยังมี พวกสมาร์ตโฮม จากแบรนด์นี้นั่นเอง แต่หากคุณใช้เครื่อง iPhone ก็ต้องตั้งค่าเชื่อมต่อ กับบ ลู ทู ธ ในหัวข้อตั้งค่าใน iPhone ก่อน

หลังจากนั้นจึงมาเชื่อมต่อ ภายในแอปนี้อีกครั้งหนึ่ง และหากคุณใช้ Android แต่ไม่ได้ใช้ของแบรนด์ หัวเหว่ย ก็จำเป็นที่จะต้องสแกน QR code ในคู่มือ หรือว่าจะสแกน QR Code จากหน้าเว็บไซต์ของ หัวเหว่ย ก็ได้เช่นกัน เพื่อที่จะดาวน์โหลด Application นั่นเอง

แอปที่จำเป็น ต้องใช้คู่กับหูฟังตัวนี้นั้น ใช้งานง่ายมากแค่ไหน

แต่หากคุณใช้มือถือของ หัวเหว่ย ก็ง่ายหน่อย เนื่องจากสามารถโหลดแอป นี้ได้จาก Huawei App Gallery ได้เลย ลองทดสอบหูฟังนี้กับ หัวเหว่ย Nova 10 เชื่อมต่อกับหูฟังตัวนี้ ดูว่าจะง่ายมากแค่ไหน เมื่อลองเปิดแอป AI Life ในเครื่องมือถือของคุณ แล้วก็จะเจอกับรูปหูฟังตัวนี้ แสดงสถานะเชื่อมต่อ กับหูฟังเรียบร้อยแล้ว

และแอปก็จะแสดงว่า หูฟังด้านซ้าย ด้านขวา มีแบตเตอรี่เท่าไหร่ รวมถึงแบตเตอรี่ของตัวเคสด้วย เมื่อเข้าไปในแอปเรียบร้อยแล้ว ก็จะโชว์เปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ ของอุปกรณ์อย่างละเอียด

และมีการปรับการตั้งค่าหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโหมดการควบคุม ก็จะมีหัวข้อย่อยว่า ควบคุมเสียงรบกวน สามารถเปิดหรือว่าปิดได้ หากกดที่คำว่าการรับรู้สิ่งรอบตัว ก็หมายความว่า เรายังได้ยินเสียงภายนอกอยู่ แล้วก็ยังมีโหมดทั่วไป โหมดสบาย และโหมดสูงเป็นพิเศษอีกด้วย

หากเราเลือกโหมดสบายนั้น ก็เหมาะกับสถานที่ ที่มีเสียงรบกวนน้อย แบบทั่วไปนั้นก็คือ สถานที่ที่มีเสียงดังทั่วไป สำหรับคำว่าสูงเป็นพิเศษ ก็คือสถานที่ที่มีเสียงรบกวนมาก มาต่อกันที่การเลือกคุณภาพเสียง คุณสามารถปรับแต่ง EQ ได้หลากหลายอย่างเลยทีเดียว

เมื่อกดเข้าไปก็จะเจอคำว่า เอฟเฟกต์อีคิว คุณจะเพิ่มเสียงเบสก็ได้ หรือว่าจะเพิ่มเสียงแหลมก็ได้เช่นกัน หูฟังรุ่นนี้นั้นสามารถเชื่อมต่อ กับอุปกรณ์ได้สูงสุด 2 อุปกรณ์ได้ด้วย ในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็มีความหมายว่า การจะเปลี่ยนจากอุปกรณ์แรก ไปยังอุปกรณ์ที่ 2 นั้น สามารถทำได้พร้อมกันเพียงแค่ 2 อุปกรณ์เท่านั้น

และหากคุณใช้อุปกรณ์ตัวที่ 2 ที่ไม่ได้เป็นของแบรนด์ หัวเหว่ย หูฟังก็ยังทำงานได้แบบปกติอยู่ และสำหรับการควบคุมหูฟังนั้น คุณก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้จากแอปนี้ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 2 ครั้ง เราอาจจะให้เพิ่มเสียง หรือว่าปัดนิ้ว เราอาจจะตั้งให้เปลี่ยนเพลง อันนี้คุณก็สามารถเลือกได้ตามใจ

หรือจะกดที่หูซ้ายให้เล่นเพลงต่อไป แล้วหูขวาถ้ากดก็จะเป็นการหยุดเล่นเพลงชั่วคราว และการ Volume ที่หูฟังนั้น ก็เพียงแค่สัมผัสขึ้นลงบริเวณก้านหูฟังทั้งนั้น ซึ่งฟังก์ชันดังกล่าวนี้ ก็มีอยู่ใน HUAWEI FreeBuds 4 กันอยู่แล้ว ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ การเปลี่ยนโหมดโดยการ กดที่หูฟังนั้นก็สามารถทำได้ โดยการกดค้างที่ก้านหูฟัง

การทดสอบหูฟังอย่างละเอียด เทียบกับหูฟังรุ่นพี่ในแบรนด์ Huawei นั้นเป็นอย่างไรบ้าง

huawei-เปิดตัวหูฟัง สำหรับไมโครโฟนในหูฟังรุ่นนี้ ก็จะมีด้วยกันทั้งสิ้นจำนวน 2 ตัว ซึ่งเราจะได้ทดสอบกันในสถานที่เงียบ แล้วก็พื้นที่ที่มีเสียงรบกวน ในสถานที่เงียบงัน ก็จะได้ยินเสียงชัดมาก แต่สถานที่ที่มีเสียงรบกวนนั้น ก็จะรู้สึกว่าเสียงนั้นก้องเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีเสียงภายนอกเข้ามาแต่อย่างใด

และลองเปรียบเทียบกับหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 เปิดตัว ซึ่งได้มีการนำไปทดสอบในคอนเสิร์ต โดยการใส่หูฟังรุ่นนั้น หากลองโทรไปหาใครสักคนหนึ่ง จากการสอบถามก็พบว่า เขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย เขาไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าเราอยู่ในคอนเสิร์ต

และถึงแม้ว่าหูฟังรุ่นนี้ จะเป็นหูฟังรุ่นน้องจากรุ่นโปร แต่ก็ยังมีฟีเจอร์ Active Noise Translation ที่ทำได้สูงสุดถึง 42 เดซิเบล แต่สำหรับรุ่น 4i ทำได้สูงสุดอยู่ที่ 22 เดซิเบล ก็ถือว่าทำงานได้ดีกว่ารุ่นเก่า อยู่พอสมควรเลย อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โหมดของหูฟังนี้มีหลัก ๆ อยู่ 3 โหมด

โหมดที่คาดว่า น่าจะใช้งานบ่อยสุด ก็คือโหมดปิดนั่นเอง เนื่องจากโหมดนี้ หากคุณเลือกใช้แล้วล่ะก็ จะไม่มีเสียงรอบข้างเล็ดลอดเข้าไปเลย หรือแทบไม่มีเลยนั่นเอง

แต่ถ้ากดแบบเปิด เราก็จะยังได้ยินเสียงรอบข้างอยู่ แต่ก็ไม่ได้เด่นเท่ากับเสียงหลัก ซึ่งโหมด Active noise Translation นั้น ก็แนะนำให้ใช้ในตอนที่ เรากำลังอยู่ในโลกส่วนตัว อย่างเป็นตอนที่ เรากำลังดูหนังหรือว่าฟังเพลง แต่แต่หากคุณออกไปข้างนอกหรือว่า กำลังเดินอยู่บริเวณถนน ก็ควรจะเปิดเพื่อให้ได้ยินเสียงรอบข้างบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณ

huawei-เปิดตัวหูฟัง รุ่นนี้มี Driver Dynamic ที่เป็นความไวสูงอยู่ที่ 10 mm นับว่าเป็นไดร์เวอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ ดูหนังฟังเพลงได้อย่างสบาย สำหรับเบสของหูฟังรุ่นนี้ ก็ให้เสียงเบสที่ไม่ได้ทุ้ม หรือว่าไม่ได้ลึกเกินไป แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่ได้ยินเลย

ถ้ามองดี ๆ จะพบว่า huawei-เปิดตัวหูฟัง รุ่นนี้นั้น มันก็ยังคงมีความอิมแพคอยู่เหมือนกัน สำหรับเสียงแหลม หรือว่าเสียงกีต้าร์นั้น ก็ถือว่าได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว หูฟังตัวนี้ยังได้รับการรับรอง Hi Res ซึ่งรองรับ LDAC ตอบสนองต่อความถี่ถึง 40,000 เฮิร์ตด้วยกัน

นั่นหมายความว่า สามารถรับเสียงได้หลากหลายคลื่นความถี่ และไดอะแฟรมของหูฟังรุ่นนี้ ก็ยังมีโพลิเมอร์คอมโพสิต ซึ่งจะช่วยส่งเสียงความถี่ต่ำ กลาง และสูง ให้เหมาะกับเพลงป๊อปนั่นเอง และแน่นอนฟังก์ชัน Wear Detection ก็ได้มีมาให้เช่นกัน

นั่นก็คือ เมื่อถอดหูฟังออกจากหู เพลงหรือว่าหนังที่เราเล่นอยู่ ก็จะหยุดเล่นทันที ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถใช้เป็นรีโมท ในการถ่ายรูปได้ ด้วยการแตะที่หูฟัง 2 ครั้ง ฟังก์ชันที่จำเป็นต้องมี อีกอย่างนั้นก็คือ Find My earphone

ซึ่งโดยส่วนใหญ่หูฟัง true wireless แต่ละยี่ห้อ ที่อยู่ในเรตราคานี้ ก็มักจะมีฟังก์ชันนี้กันอยู่แล้ว ข่าวโดยรวมแล้วก็เป็น หู ฟัง ไร้ สาย True wireless ที่ออกแบบมาได้ดี และมีฟังก์ชันที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ กลับราคาแค่ 2,700 นิด ๆ เท่านั้น หากคุณชื่นชอบ หู ฟัง Type C Huawei ตัวนี้แล้ว ไม่กังวลเรื่องข้อเสียของมัน

huawei-เปิดตัวหูฟัง รุ่นใหม่นี้ ก็ถือว่าคุ้มค่า หากจะจับจองเป็นเจ้าของ และหูฟังรุ่นอื่นที่น่าสนใจ ของแบรนด์ Huawei นั่นก็คือรุ่น หู ฟัง Huawei Nova 5T ซึ่งก็จะใช้งานเฉพาะทาง แตกต่างจากรุ่นนี้พอสมควร

ห้ามพลาดกับ sony-เปิดตัวหูฟัง ที่เรารวมไฮไลต์เด็ด ๆ ไว้ เพื่อให้คุณลองตัดสินใจ และหากคุณเป็นอีกหนึ่งคน ที่ชื่นชอบกีฬาลูกหนัง เป็นชีวิตจิตใจล่ะก็ ทีเด็ดฟุตบอล ที่บอกเลยว่า ไม่ควรมองข้าม มีข่าวสารดี ๆ เป็นประโยชน์ พร้อมอัปเดตข่าวใหม่ ๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ประวัตินักเตะต่าง ๆ ,ผลสรุปในนัดนั้น ๆ และ โปรแกรมฟุตบอล ให้คุณได้รู้ก่อนใคร ฝากติดตามด้วยนะ

เขียนโดย อลิส